วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

คุณธรรมที่ประทับใจ

“คุณธรรม จริยธรรม”

นิยาม ความหมาย “คุณธรรม จริยธรรม”
“คุณธรรม”
คุณธรรม หมายถึง
 คุณสมบัติฝ่ายดีโดยส่วนเดียว เป็นที่ตั้งหรือเป็นประโยชน์แก่สันติภาพหรือสันติสุขจึงเป็นที่ต้องการของ มนุษย์
คุณธรรมเป็น สิ่งที่ต้องอบรมโดยเฉพาะเพื่อให้เกิดขึ้นเหมาะสมกับที่เราต้องการ - ท่านพุทธทาสภิกขุ
คุณธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นคุณความดีงาม สภาพที่เกื้อกูล - พระราชวรมุนี
คุณธรรม เป็นเรื่องของความจริงแท้หรือสัจธรรม คุณธรรมทำให้เกิดการประพฤติ
ปฏิบัติ ที่ดี ทำให้เกิดการรักษาศีล คุณธรรมเป็นตัวหลักและกระจายออกเป็นจริยธรรมและจรรยาบรรณ - พระเมธีธรรมาภรณ์
คุณธรรม หมายถึง สภาพคุณงามความดี - พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานคุณธรรม หมายถึง สิ่งที่มีคุณค่า มีประโยชน์ เป็นความดีงาม เป็นมโนธรรม เป็นเครื่องประคับประคองใจให้เกลียดความชั่ว กลัวบาป ใฝ่ความดี และเป็นเครื่องกระตุ้นผลักดันให้เกิดความรู้สึกผิดชอบ เกิดจิตสำนึกที่ดีมีความสงบเย็นภายใน – ประมวลจากการประชุมระดมความคิด
“จริยธรรม”
จริยธรรม
 หมายถึง ระเบียบปฏิบัติที่มุ่งปฏิบัติเพื่อให้เกิดความผาสุกในสังคม เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำขึ้น แต่งขึ้นตามเหตุผลของมนุษย์เอง หรือตามความต้องการของมนุษย์ - พุทธทาสภิกขุ
จริยธรรม หมายถึงการนำความรู้ในความจริงหรือกฎธรรมชาติไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการ ดำเนินชีวิตที่ดีงาม อันจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม - พระราชวรมุนี
จริยธรรม หมายถึง การดำเนินการให้สอดคล้องกับสัจธรรม จริยธรรมจึงเป็นหลักแห่งความประพฤติที่ดีงามเพื่อประโยชน์ตนและสังคม - พระเมธีธรรมาภรณ์
จริยธรรม หมายถึง แนวทางในการประพฤติเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นในสังคม- สาโรช บัวศรี
จริยธรรม หมายถึง ประมวลกฏเกณฑ์ความประพฤติ หรือมาตรการของความประพฤติซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มีความสำนึกและการตัดสินใจ - กีรติ บุญเจือ
จริยธรรม หมายถึงธรรมที่เป็นข้อปฏิบัติ ศีลธรรม กฎศีลธรรม - พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
จริยธรรม หมาย ถึง สิ่งที่พึงประพฤติปฏิบัติ มีพฤติกรรมที่ดีงามต้องประสงค์ของสังคมเป็นหลักหรือกรอบที่ทุกคนกำหนดไว้ เป็นแนวปฏิบัติสำหรับสังคม เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม เกิดความสงบร่มเย็นเป็นสุข เกิดความรักสามัคคี เกิดความอบอุ่นมั่นคงและปลอดภัยในการดำรงชีวิต เช่น ศีลธรรม กฎหมาย ธรรมเนียม ประเพณี เป็นต้น
-ประมวล จากการประชุมระดมความคิด
คุณธรรมที่พึงประสงค์
คุณธรรมควรประกอบด้วยคุณธรรมที่พึงประสงค์
( ศ. ประเวศ วะสี, คุณธรรมนำการพัฒนา ยุทธศาสตร์สังคมคุณธรรม , ๒๕๔๙)
1. ความมีน้ำใจ ความไม่ทอดทิ้งกัน ความมีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อส่วนรวม
2. มีความขยันขันแข็ง อดทน อดกลั้น พึ่งตนเองได้ ไม่มัวเมาในอบายมุข
3. มีสัมมาชีพ มีความพอเพียง
4. มีความเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นคนของคนทุกคน สามารถรวมตัวร่วมคิด ร่วมทำอย่างเสมอภาค
5. อนุรักษ์วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มีการใช้อย่างเป็นธรรม
และยั่งยืน
6. มีความยุติธรรมและแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
7. มีการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คุณ ลักษณ์ด้านคุณธรรม หมายถึง คุณลักษณะที่เป็นสภาพความดีงามในด้านต่างๆ
4 ข้อคือ ได้แก่
1.คุณธรรมที่เป็นปัจจัยแรงผลักดันหมายถึงสภาพความดีงามที่ช่วยเร่งรัดให้กระทำการใดๆให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ ได้แก่ ความขยันหมั่นเพียร ความอดทนความ สามารถพึ่งตนเอง และการมีวินัย
2.คุณธรรมที่เป็นปัจจัยหล่อเลี้ยง หมายถึง สภาพความดีงามที่ช่วยเร่งรัดให้กระทำการใดๆให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ที่ตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ฉันทะ สัจจะ ความรับผิดชอบความสำนึกใน หน้าที่ และความกตัญญู
3.คุณธรรมที่เป็นปัจจัยเหนี่ยวรั้งหมายถึงสภาพความดีงามที่ช่วยยึดประวิงหรือตักเตือนให้กระทำการใดๆให้บรรลุจุด มุ่งหมายที่ตั้งไว้ ได้แก่ ความมีสติและรอบคอบและความตั้งจิตให้ดี
4.คุณธรรมที่เป็นปัจจัยสนับสนุนหมายถึงสภาพความดีงามที่ช่วยส่งเสริมให้กระทำการใดๆให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ ได้แก่ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อกัน ความเอื้อเฟื้อต่อกัน ความไม่เห็นแก่ตัว ความไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และความอะลุ้มอล่วยถ้อยทีถ้อยอาศัยคุณธรรม
เครื่องประดับชีวิตที่สูงค่าในอดีตพ่อแม่ผู้ปกครองมักจะสอนลูกให้เป็นคนเก่งเรียนดีต่อมาในสังคมปัจจุบันเริ่มรับรู้ว่าคุณธรรมต้องนำปัญญาการเป็นคนเก่งอย่างเดียวอาจจะเอาชีวิตไม่รอด แต่การเป็นคนมีคุณธรรมจะช่วยให้สามารถมีวัคซีนใจใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างราบรื่นและมีความสุขยิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองเริ่มมองเห็นแล้วว่าควรสอนให้เด็กเก่ง โดยที่มีคุณธรรมควบคู่กันไปด้วย
คุณธรรมหมาย ถึงความสำเร็จที่สมบูรณ์ของผู้มีความรู้ มีความดี มีความเข้าใจ ว่ากำลังทำอะไร เพื่ออะไร การสร้างสมคุณธรรมจึงเริ่มจากความคิดที่ดีในจิตใจและอาศัยการพิจารณาไตร่ตรองของสติปัญญาอย่างลึกซึ้ง ที่จะเข้าใจเหตุและผลของแต่ละการกระทำก่อนที่จะตัดสินทำอะไร ให้เกิดผลดีมีคุณประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น
คุณธรรมเปรียบเช่นอัญมณีล้ำค่าหลากสีหลายรูปทรงเป็นเครื่องประดับตกแต่งชีวิตให้สูงส่งงดงามซึ่งสามารถแสดงออกทางการกระทำคำพูดและการแต่งกาย แม้ว่าบุคคลบางคนอาจจะไม่มีทรัพย์สมบัติภายนอกแต่หากมีคุณธรรมที่เต็มเปี่ยมอยู่ภายในก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งที่แท้จริงได้ ทั้งยังมุ่งเน้นให้เรียนรู้ถึงธรรมชาติดั้งเดิมที่ดีงามของตนเองและผู้อื่นควบคู่กันไปกับการฝึกจิตให้มีพลังความสงบ ซึ่งน่าจะเป็นหนทางในการใช้ปัญญาให้เป็นสมบัติที่มีค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดเนื่องจากความสงบเป็นพื้นฐานของการสร้างและการรักษาคุณธรรม เปรียบเสมือนทองที่รองรับเพชรพลอยไม่ให้แตกร้าวดังนั้นเมื่อคุณธรรมและความสงบอยู่ในบุคคลคนเดียวกันแล้วย่อมน่าจะถือได้ว่า บุคคลผู้นั้นเป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อม มั่งคั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับที่สูงส่ง
คุณธรรมที่ดีมักจะเริ่มมาจากความรู้ทางจิตใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้น ของทุกชีวิต เพราะจิตใจเป็นผู้สร้างความคิด แล้วแสดงออกเป็นคำพูดและการกระทำอันนำผลกลับมาสู่ผู้คิดและผู้กระทำตลอดเวลาการฝึกจิตใจก็คือการได้มาซึ่งประสบการณ์ของความสงบสุขจากภายใน จากความพยายามในการสร้างควบคุมและรักษาความคิดที่ดีไว้ขณะที่มีสายใยทางจิตกับแหล่งแห่งความสงบและ คุณธรรม จนกระทั่งสามารถขจัดความคิดที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป อันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและนิสัย โดยไม่ได้หมายถึงการนั่งหลับตาหรือการบังคับอิริยาบถใดๆเพียงอย่างเดียวการมีคุณธรรมนอกจากให้คุณประโยชน์กับตัวเองครอบครัวและสังคมแล้วยังมีคุณประโยชน์ต่อโลกอีกด้วยเพราะเป็นการปฏิบัติตามทฤษฎีที่มีประสบการณ์และคุณธรรมเป็นกำลังเสริม เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีทั้งในครอบครัวและสังคมซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับความละเอียดอ่อนของจิตใจและสติปัญญา ที่สามารถสื่อความหมายได้อย่างกระชับชัดเจนเหมาะสมด้วยคำพูดและการกระทำที่ให้ผลดีแก่ตนเองและผู้อื่นตลอดเวลา โดยเริ่มจากการฝึกทัศนคติในเชิงบวกให้ได้เสียก่อน

ความฝันในวัยเด็ก

             ความฝันในวัยเด็กของฉันนั้นมันเป็นอะไรที่น่าจดจำมากหากมองย้อนเวลากลับไป  ถ้าถามว่าทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะช่วงเวลานั้นมันมีเรื่องที่สนุกมากมายเต็มไปหมด ดังนั้นความฝันของฉันเองก็มีมากมายเหมือนกัน ไม่ว่าอาชีพที่อยากจะเป็นในอนาคต หรือการที่จะได้โตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานอนกลางวันตอนพักเที่ยงของอนุบาล มีความคิดอีกเยอะแยะเลยในตอนนั้น แต่ผ่านมาถึงตอนนี้ก็คงจะเลือนลางบ้างแล้วล่ะ อันที่จริงตอนเด็กฉันเคยฝันว่าอยากจะไปอวกาศเหมือนกันนะ ก็คิดตอนที่นอนกลางวันของโรงเรียนอนุบาลนั่นแหละ เพราะตอนนั้นนี่ไม่เคยจะนอนหลับได้เลย เรียกได้ว่าไม่เคยจะง่วง ไม่เหมือนตอนโต -_- เริ่มนอกเรื่องแล้วล่ะ  แต่ตอนเด็กๆฉันฝันแบบนั้นจริงๆนะ อยากรู้ว่าอวกาศเป็นยังไง รูปร่างแบบไหน ทั้งพระจันทร์และพระอาทิตย์ ที่สำคัญมันจะกว้างแค่ไหนกัน ตอนนั้นเป็นอะไรที่อยากรู้มากจริงๆ เหมือนเด็กที่กำลังนอนฝันกลางวันเลย มีความสุขมากๆ แต่ก็ต้องมาคอยหลบคุณครูนะ เพราะคุณครูชอบบังคับให้นอน จำได้ว่ามันไม่สนุกเลย แต่ก็ตื่นเต้นดี 
           
            จำได้อีกว่าอยากเป็นตำรวจด้วยล่ะ เพราะตอนนั้นคิดว่าเท่มาก ช่วงนั้นละครที่มีตำรวจหญิงก็เยอะด้วย เลยชอบมมาก แต่ต้องเป็นตำรวจที่ไล่จับผู้ร้ายนะ ไม่เป็นตำรวจที่นั่งแต่ในโรงพักอย่างเดียวเด็ดขาด ดูแล้วไม่น่าจะสนุก
             เคยฝันอีกนะว่าอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ตอนนั้นจำได้ว่าเคยแต่งวาดการ์ตูนให้เพื่อนอ่านเล่นด้วย สนุกมาก เพื่อนชอบด้วยแน่ะ แต่ก็เริ่มขี้เกียจไปเพราะเจอความฝันที่อยากเป็นมากกว่า แต่ก็ไม่แน่นอนหรอก ในตอนเด็กมีอะไรสนุกๆเยอะ ความฝันก็เลยมีหลายอย่างและเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามความรู้สึก นึกแล้วก็อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตแบบสนุกและมีความสุขโดยที่ไม่คิดอะไรมากมาย จนมาถึงตอนนี้มันก็กลายเป็นความทรงจำไปแล้ว แต่ก็เป็นความทรงจำที่มีความหมายที่สุด หากมองย้อนกลับไป ^^